

http://www.chiangmaigatehotel.com/
โรงแรมเชียงใหม่เกต
ขอเสนอ งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ 31 - 3 พ.ย 2552
Chiang Mai Yi Peng Festival 2009
Oct 31, 2009 - Nov 3, 2009Tha Phae Gate, banks of Ping River, Chiang Mai Municipal Office Changwat Chiang Mai
HIghlights :An amazing procession of hanging lanterns, Krathong design contest, Miss Yi Peng beauty contest, light and sound presentation in Ping River, the ancient Thai Lanna Krathong activities, local cultural performances, and local handicrafts market in Lanna style.
For more information, Please contactChinag Mai Municipality Tel. 66 (0) 5325 5478, 66(0) 5323 3178TAT Chiang Mai Tel. 66 (0) 5324 8604, 66 (0) 5324 8607Website : http://www.loikrathong.net/ http://www.tourismthailand.org/ http://www.tatchiangmai.org/
Source: Tourism Authority of ThailandLast Update : 2009-10-09 17:13:50Remark : Schedule is subject to change due to appropriate timing, please check with TAT directly again http://thai.tourismthailand.org/
งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่
31 ต.ค. 2552 - 3 พ.ย. 2552ณ ช่วงประตูท่าแพ, หน้าสำนักงานเทศบาล จังหวัดเชียงใหม่
“สืบฮีต สานฮอย ต๋ามโคมผ่อกอย ยี่เป็งล้านนา”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับ เทศบาลนครเชียงใหม่ กำหนดจัดงาน “ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่” “สืบฮีต สานฮอย ต๋ามโคมผ่อกอย ยี่เป็งล้านนา” หรือ Chiang Mai “Yee Peng” (Loy Krathong Festival) ขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2552 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ให้เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ทำให้เกิดพัฒนาการทางด้านความผสมผสานระหว่างดนตรีล้านนากับดนตรีสากล อีกทั้งยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสกับเยาวชนในเขตจังหวัดภาคเหนือได้แสดงความสามารถในด้านดนตรี และศิลปวัฒนธรรมภายในงานอีกด้วย
กำหนดการ เวลา กิจกรรม สถานที่
โรงแรมเชียงใหม่เกต
ขอเสนอ งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่ 31 - 3 พ.ย 2552
Chiang Mai Yi Peng Festival 2009
Oct 31, 2009 - Nov 3, 2009Tha Phae Gate, banks of Ping River, Chiang Mai Municipal Office Changwat Chiang Mai
HIghlights :An amazing procession of hanging lanterns, Krathong design contest, Miss Yi Peng beauty contest, light and sound presentation in Ping River, the ancient Thai Lanna Krathong activities, local cultural performances, and local handicrafts market in Lanna style.
For more information, Please contactChinag Mai Municipality Tel. 66 (0) 5325 5478, 66(0) 5323 3178TAT Chiang Mai Tel. 66 (0) 5324 8604, 66 (0) 5324 8607Website : http://www.loikrathong.net/ http://www.tourismthailand.org/ http://www.tatchiangmai.org/
Source: Tourism Authority of ThailandLast Update : 2009-10-09 17:13:50Remark : Schedule is subject to change due to appropriate timing, please check with TAT directly again http://thai.tourismthailand.org/
งานประเพณียี่เป็งเชียงใหม่
31 ต.ค. 2552 - 3 พ.ย. 2552ณ ช่วงประตูท่าแพ, หน้าสำนักงานเทศบาล จังหวัดเชียงใหม่
“สืบฮีต สานฮอย ต๋ามโคมผ่อกอย ยี่เป็งล้านนา”
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ ร่วมกับ เทศบาลนครเชียงใหม่ กำหนดจัดงาน “ประเพณีเดือนยี่เป็งเชียงใหม่” “สืบฮีต สานฮอย ต๋ามโคมผ่อกอย ยี่เป็งล้านนา” หรือ Chiang Mai “Yee Peng” (Loy Krathong Festival) ขึ้น ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2552 โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ของเชียงใหม่ให้เป็นเมืองแห่งศิลปวัฒนธรรม ทำให้เกิดพัฒนาการทางด้านความผสมผสานระหว่างดนตรีล้านนากับดนตรีสากล อีกทั้งยังเป็นเวทีที่เปิดโอกาสกับเยาวชนในเขตจังหวัดภาคเหนือได้แสดงความสามารถในด้านดนตรี และศิลปวัฒนธรรมภายในงานอีกด้วย
กำหนดการ เวลา กิจกรรม สถานที่
31 ตุลาคม 2552 17.00 – 23.00 น. การแสดงสินค้าหัตถกรรมเครื่องเงิน เครื่องเขิน ถนนวัวลาย
18.00 – 24.00 น. การประกวดร้องเพลงไทยเพลงลูกทุ่ง และการแสดงศิลปะพื้นบ้าน หน้าสำนักงานเทศบาล
1 พฤศจิกายน 2552 17.00 – 23.00 น. การแสดงสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านล้านนา ถนนคนเดิน ถนนราชดำเนิน
18.00 – 19.00 น. พิธีเปิดงาน “ประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2552” ข่วงประตูท่าแพ
18.00 – 22.00 น. ขบวนแห่โคมยี่เป็ง ครั้งที่ 18 ย่านไนท์บาซาร์ ข่วงประตูท่าแพ – ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่าร์
18.00 – 24.00 น. การประกวดหนูน้อยยี่เป็ง หน้าสำนักงานเทศบาล
1-2 พฤศจิกายน 2552 18.00 – 24.00 น. การประกวดเทพียี่เป็งเชียงใหม่ ข่วงประตูท่าแพ
1-3 พฤศจิกายน 2552 ตลอดทั้งวัน การจัดซุ้มประตูป่า วัดในเมืองเชียงใหม่
09.00 – 21.00 น. นิทรรศการ “สืบสานตำนานโคมยี่เป็งล้านนา” วัดอินทขิล
09.00 – 22.00 น. วัฒนธรรมชนเผ่า 6 เผ่า, ชมเขาวงกต,เทศน์มหาชาติ วัดเจ็ดสิน
ประเพณีตั้งธรรมหลวง, ตามขันข้าว, แข่งขันโคมไฟลอดบ่วง วัดโลกโมฬี
10.00 – 23.00 น. สืบฮีต สานฮอย ฮอมปอย ไหว้สาพระสิริมังคลายี่เป็ง พุทธสถานเชียงใหม่
18.00 – 24.00 น. การจัดลานโคมยี่เป็งล้านนาเทิดพระเกียรติฯ ข่วงประตูท่าแพ
18.00 – 24.00 น. การประกวดร้องเพลงไทยเพลงลูกทุ่ง และการแสดงศิลปะพื้นบ้าน หน้าสำนักงานเทศบาล
1 พฤศจิกายน 2552 17.00 – 23.00 น. การแสดงสินค้าหัตถกรรมพื้นบ้านล้านนา ถนนคนเดิน ถนนราชดำเนิน
18.00 – 19.00 น. พิธีเปิดงาน “ประเพณีเดือนยี่เป็ง ประจำปี 2552” ข่วงประตูท่าแพ
18.00 – 22.00 น. ขบวนแห่โคมยี่เป็ง ครั้งที่ 18 ย่านไนท์บาซาร์ ข่วงประตูท่าแพ – ห้างพันธุ์ทิพย์พลาซ่าร์
18.00 – 24.00 น. การประกวดหนูน้อยยี่เป็ง หน้าสำนักงานเทศบาล
1-2 พฤศจิกายน 2552 18.00 – 24.00 น. การประกวดเทพียี่เป็งเชียงใหม่ ข่วงประตูท่าแพ
1-3 พฤศจิกายน 2552 ตลอดทั้งวัน การจัดซุ้มประตูป่า วัดในเมืองเชียงใหม่
09.00 – 21.00 น. นิทรรศการ “สืบสานตำนานโคมยี่เป็งล้านนา” วัดอินทขิล
09.00 – 22.00 น. วัฒนธรรมชนเผ่า 6 เผ่า, ชมเขาวงกต,เทศน์มหาชาติ วัดเจ็ดสิน
ประเพณีตั้งธรรมหลวง, ตามขันข้าว, แข่งขันโคมไฟลอดบ่วง วัดโลกโมฬี
10.00 – 23.00 น. สืบฮีต สานฮอย ฮอมปอย ไหว้สาพระสิริมังคลายี่เป็ง พุทธสถานเชียงใหม่
18.00 – 24.00 น. การจัดลานโคมยี่เป็งล้านนาเทิดพระเกียรติฯ ข่วงประตูท่าแพ
18.00 – 22.00 น. “ประทีปเบิกฟ้า ยี่เป็งล้านนาเชียงใหม่" ประตูช้างเผือก – ประตูเชียงใหม่
18.00 – 24.00 น. การประกวดกระทงลอยน้ำ และกระทง VIP ลำน้ำปิงหน้าเทศบาล – สะพานนวรัฐ
20.00 – 22.00 น. การแสดงแสง สี เสียง กลางลำน้ำปิง หน้าสำนักงานเทศบาล
2 พฤศจิกายน 2552 08.00 – 10.30 น. พิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ, เจดีย์ขาว,ขอขมาแม่น้ำปิง หน้าเทศบาล, ท่าน้ำศรีโขง
09.00 – 12.00 น. การประกวดโคมลอย และโคมลอยยักษ์ หน้าสำนักงานเทศบาล
09.00 – 17.00 น. การประกวดกระทงฝีมือใบตอง ดอกไม้สด หน้าสำนักงานเทศบาล
09.00 – 17.00 น. การแข่งขันกีฬาทางน้ำ ถ่อแพ, ดำน้ำ, พายกาละมัง ลำน้ำปิงหน้าสำนักงานเทศบาล
18.00 – 23.00 น. การประกวดขบวนแห่กระทงเล็ก ข่วงประตูท่าแพ – หน้าเทศบาล
2-3 พฤศจิกายน 2552 19.00 – 24.00 น. การจุดพลุ ถวายเป็นพุทธบูชา แพกลางน้ำหน้าเทศบาล
19.00 – 24.00 น. การปล่อยกระทงสายสืบสานล้านนา ลำน้ำปิงหน้าสำนักงานเทศบาล
3 พฤศจิกายน 2552 18.00 – 24.00 น. การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ ข่วงประตูท่าแพ – หน้าสำนักงานเทศบาล
18.00 – 23.00 น. “อนุรักษ์วัฒนธรรมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณ๊ยี่เป็ง”
สอบถามรายละเอียดเทศบาลนครเชียงใหม่ โทร. 0 5325 5478, 0 5323 3178การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5324 8604, 0 5324 8607Website : http://www.loikrathong.net/
ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
แก้ไขล่าสุด : 2009-10-09 17:13:50หมายเหตุ : เนื่องจากกำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม กรุณาตรวจสอบข้อมูลจาก ททท. โดยตรงที่ http://thai.tourismthailand.org/
ประวัติความเป็นมาประเพณีลอยกระทง
ลอยกระทง (Loy Krathong Day) เป็นประเพณีของไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ งานลอยกระทงเริ่มทำตั้งแต่ กลางเดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลาก น้ำจะเต็มสองฝั่งแม่น้ำ ที่นิยมมากคือ ช่วงวันเพ็ญเดือน 12 เพราะพระจันทร์เต็มดวง ทำให้แม่น้ำใสสะอาด แสงจันทร์ส่องเวลากลางคืน เป็นบรรยากาศที่สวยงาม เหมาะแก่การลอยกระทง เดิมพิธีลอยกระทงเรียกว่า พระราชพิธีจองเปรียงชักโคม ลอยโคม ซึ่งเป็นพิธีของพราหมณ์ เพื่อบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ครั้นคนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา ก็ทำพิธียกโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระจุฬามณี ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลอยโคมบูชาพระพุทธบาท ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ประเทศอินเดีย การลอยกระทง ตามสายน้ำนี้ นางนพมาศ สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย คิดทำกระทงรูปดอกบัว และรูปต่างๆถวาย พระร่วงทรงให้ลอยกระทงตามสายน้ำไหล ในหนังสือ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระร่วงตรัสว่า "แต่นี่สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอย เป็นรูปดอกบัวอุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมฆทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน" ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีการทำกระทงขนาดใหญ่และสวยงาม ดังพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ของเจ้าพระยาทิพาราชวงศ์ กล่าวไว้ว่า "ครั้นมาถึงเดือน 12 ขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ แรมค่ำหนึ่งพิธีจองเปรียงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรง พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน และข้าราชการที่มีกำลังพาหนะมาทำกระทงใหญ่ ผู้ถูกเกณฑ์ต่อเป็นถังบ้าง ทำเป็นแพหยวกบ้าง กว้าง 8 ศอกบ้าง 9 ศอกบ้าง กระทงสูงตลอดยอด 10 ศอก 11 ศอก ทำประกวดประขันกันต่างๆ ทำอย่างเขาพระสุเมรุทวีปทั้ง 4 บ้าง และทำเป็นกระจาดชั้นๆบ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่องสด คนทำก็นับร้อย คิดในการลงทุนทำกระทงทั้งค่าเลี้ยงคนและพระช่าง เบ็ดเสร็จก็ถึง 20 ชั่งบ้าง ย่อมกว่า 20 ชั่งบ้าง"
ปัจจุบันประเพณีลอยกระทง มีการจัดงานกันแทบทุกจังหวัด ถือเป็นงานประจำปีที่สำคัญ โดยเฉพาะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดขบวนแห่กระทงใหญ่ กระทงเล็ก มีการประกวดกระทง และประกวดธิดางามประจำกระทงด้วย ส่วนการลอยโคม ชาวบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสานยังนิยมทำกัน ชาวบ้านจะนำกระดาษ มาทำเป็นโคมขนาดใหญ่สีต่างๆ ถ้าลอยตอนกลางวัน จะทำให้โคมลอยโดยใช้ควันไฟ ถ้าเป็นเวลากลางคืน ก็จะใช้คบจุด ที่ปากโคม ให้ควันพุ่งเข้าในโคม ทำให้ลอยไปตามกระแสลมหนาว เวลากลางคืนแลเห็นแสงไฟโคม บนท้องฟ้า พร้อมกับแสงจันทร์และดวงดาวสวยงามมากทีเดียว
เรื่องน่ารู้ใน วันลอยกระทง
คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทง คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยู่หลายตำนาน ดังนี้ 1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา 2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร 3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา 4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ 5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า 6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก 7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล ประวัติการลอยกระทงในเมืองไทย การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย เรียกว่า การลอยพระประทีป หรือลอยโคม เป็นงานนักขัตฤกษ์รื่นเริงของประชาชนทั่วไป ต่อมานางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรือลอยโคมในสมัยนางนพมาศ กระทำเพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำเนรพุททาการลอยกระทงในปัจจุบัน การลอยกระทงในปัจจุบัน ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่องสักการบูชา ก่อนทำการลอยในแม่น้ำก็จะอธิษฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคาตามคุ้มวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภชในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ วัสดุที่นำมาใช้กระทง ควรเป็นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ
เหตุผลของการลอยกระทง สรุปเหตุผลของการลอยกระทงในประเทศไทยดังนี้ 1. เพื่อขอขมาแม่คงคา เพราะได้อาศัยนำท่านกินและใช้ และอีกประการหนึ่งมนุษย์มักจะทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในนำด้วย 2. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งประพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิาฐานไว้บนหาดทรายที่แม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย 3. เพื่อลอยทุกข์โศกโรคภัย และสิ่งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์ 4. เพื่อบูชาพระอุปคุต ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแกพระอุปคุตอย่างสูง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มากสามารถปราบพญามารได้ การลอยกระทงไม่มีพิธีรีตอง เพียงแต่ขอให้มีกระทงจะทำด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง การกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูปเทียนปักที่กระทงแล้วอธิษฐานตามที่ตนปรารถนา เสร็จแล้วจึงลอยไปที่แม่นำลำคลอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเทศกาล "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะมีกิจกรรมเด่น ในหลายพื้นที่ เช่น งานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร, ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงฯ จังหวัดตาก และประเพณี ลอยกระทงตามประทีป จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์งานประเพณีลอยกระทงให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลอดเดือนต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟู ประเพณี อันดีงามของไทย(โดยเฉพาะประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น) ไว้สืบทอดต่อไป ๒. เพื่อส่งเสริมให้งานประเพณีลอยกระทง เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยสามารถนำเสนอในรายการนำเที่ยวเป็นประจำทุกปี ในอนาคตอย่างยั่งยืน ๓. เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและรายได้ พร้อมทั้งขยายวันพักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ๔. เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทง และการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน
18.00 – 24.00 น. การประกวดกระทงลอยน้ำ และกระทง VIP ลำน้ำปิงหน้าเทศบาล – สะพานนวรัฐ
20.00 – 22.00 น. การแสดงแสง สี เสียง กลางลำน้ำปิง หน้าสำนักงานเทศบาล
2 พฤศจิกายน 2552 08.00 – 10.30 น. พิธีบวงสรวงศาลพระภูมิ, เจดีย์ขาว,ขอขมาแม่น้ำปิง หน้าเทศบาล, ท่าน้ำศรีโขง
09.00 – 12.00 น. การประกวดโคมลอย และโคมลอยยักษ์ หน้าสำนักงานเทศบาล
09.00 – 17.00 น. การประกวดกระทงฝีมือใบตอง ดอกไม้สด หน้าสำนักงานเทศบาล
09.00 – 17.00 น. การแข่งขันกีฬาทางน้ำ ถ่อแพ, ดำน้ำ, พายกาละมัง ลำน้ำปิงหน้าสำนักงานเทศบาล
18.00 – 23.00 น. การประกวดขบวนแห่กระทงเล็ก ข่วงประตูท่าแพ – หน้าเทศบาล
2-3 พฤศจิกายน 2552 19.00 – 24.00 น. การจุดพลุ ถวายเป็นพุทธบูชา แพกลางน้ำหน้าเทศบาล
19.00 – 24.00 น. การปล่อยกระทงสายสืบสานล้านนา ลำน้ำปิงหน้าสำนักงานเทศบาล
3 พฤศจิกายน 2552 18.00 – 24.00 น. การประกวดขบวนแห่กระทงใหญ่ ชิงถ้วยพระราชทานฯ ข่วงประตูท่าแพ – หน้าสำนักงานเทศบาล
18.00 – 23.00 น. “อนุรักษ์วัฒนธรรมสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น ประเพณ๊ยี่เป็ง”
สอบถามรายละเอียดเทศบาลนครเชียงใหม่ โทร. 0 5325 5478, 0 5323 3178การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานเชียงใหม่ โทร. 0 5324 8604, 0 5324 8607Website : http://www.loikrathong.net/
ที่มา: การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
แก้ไขล่าสุด : 2009-10-09 17:13:50หมายเหตุ : เนื่องจากกำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม กรุณาตรวจสอบข้อมูลจาก ททท. โดยตรงที่ http://thai.tourismthailand.org/
ประวัติความเป็นมาประเพณีลอยกระทง
ลอยกระทง (Loy Krathong Day) เป็นประเพณีของไทยที่ปฏิบัติสืบต่อกันมาแต่โบราณ งานลอยกระทงเริ่มทำตั้งแต่ กลางเดือน 11 ถึงกลางเดือน 12 ซึ่งเป็นฤดูน้ำหลาก น้ำจะเต็มสองฝั่งแม่น้ำ ที่นิยมมากคือ ช่วงวันเพ็ญเดือน 12 เพราะพระจันทร์เต็มดวง ทำให้แม่น้ำใสสะอาด แสงจันทร์ส่องเวลากลางคืน เป็นบรรยากาศที่สวยงาม เหมาะแก่การลอยกระทง เดิมพิธีลอยกระทงเรียกว่า พระราชพิธีจองเปรียงชักโคม ลอยโคม ซึ่งเป็นพิธีของพราหมณ์ เพื่อบูชาพระเป็นเจ้าทั้งสาม คือ พระอิศวร พระนารายณ์ และพระพรหม ครั้นคนไทยรับนับถือพระพุทธศาสนา ก็ทำพิธียกโคมเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ พระจุฬามณี ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ลอยโคมบูชาพระพุทธบาท ณ หาดทรายแม่น้ำนัมมทานที ประเทศอินเดีย การลอยกระทง ตามสายน้ำนี้ นางนพมาศ สนมเอกของพระร่วงเจ้ากรุงสุโขทัย คิดทำกระทงรูปดอกบัว และรูปต่างๆถวาย พระร่วงทรงให้ลอยกระทงตามสายน้ำไหล ในหนังสือ ตำรับท้าวศรีจุฬาลักษณ์ พระร่วงตรัสว่า "แต่นี่สืบไปเบื้องหน้า โดยลำดับกษัตริย์ในสยามประเทศ ถึงกาลกำหนดนักขัตฤกษ์วันเพ็ญเดือน 12 ให้ทำโคมลอย เป็นรูปดอกบัวอุทิศสักการบูชาพระพุทธบาทนัมฆทานที ตราบเท่ากัลปาวสาน" ครั้นถึงสมัยรัตนโกสินทร์ มีการทำกระทงขนาดใหญ่และสวยงาม ดังพระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ ของเจ้าพระยาทิพาราชวงศ์ กล่าวไว้ว่า "ครั้นมาถึงเดือน 12 ขึ้น 14 ค่ำ 15 ค่ำ แรมค่ำหนึ่งพิธีจองเปรียงนั้น เดิมได้โปรดให้ขอแรง พระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า ฝ่ายใน และข้าราชการที่มีกำลังพาหนะมาทำกระทงใหญ่ ผู้ถูกเกณฑ์ต่อเป็นถังบ้าง ทำเป็นแพหยวกบ้าง กว้าง 8 ศอกบ้าง 9 ศอกบ้าง กระทงสูงตลอดยอด 10 ศอก 11 ศอก ทำประกวดประขันกันต่างๆ ทำอย่างเขาพระสุเมรุทวีปทั้ง 4 บ้าง และทำเป็นกระจาดชั้นๆบ้าง วิจิตรไปด้วยเครื่องสด คนทำก็นับร้อย คิดในการลงทุนทำกระทงทั้งค่าเลี้ยงคนและพระช่าง เบ็ดเสร็จก็ถึง 20 ชั่งบ้าง ย่อมกว่า 20 ชั่งบ้าง"
ปัจจุบันประเพณีลอยกระทง มีการจัดงานกันแทบทุกจังหวัด ถือเป็นงานประจำปีที่สำคัญ โดยเฉพาะ ที่จังหวัดเชียงใหม่ มีการจัดขบวนแห่กระทงใหญ่ กระทงเล็ก มีการประกวดกระทง และประกวดธิดางามประจำกระทงด้วย ส่วนการลอยโคม ชาวบ้านทางภาคเหนือและภาคอีสานยังนิยมทำกัน ชาวบ้านจะนำกระดาษ มาทำเป็นโคมขนาดใหญ่สีต่างๆ ถ้าลอยตอนกลางวัน จะทำให้โคมลอยโดยใช้ควันไฟ ถ้าเป็นเวลากลางคืน ก็จะใช้คบจุด ที่ปากโคม ให้ควันพุ่งเข้าในโคม ทำให้ลอยไปตามกระแสลมหนาว เวลากลางคืนแลเห็นแสงไฟโคม บนท้องฟ้า พร้อมกับแสงจันทร์และดวงดาวสวยงามมากทีเดียว
เรื่องน่ารู้ใน วันลอยกระทง
คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทง คติที่มาเกี่ยวกับวันลอยกระทงมีอยู่หลายตำนาน ดังนี้ 1. การลอยกระทง เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา 2. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระผู้เป็นเจ้าตามคติพราหมณ์ คือบูชาพระนารายณ์ซึ่งบรรทมสินธุ์อยู่ในมหาสมุทร 3. การลอยกระทง เพื่อต้อนรับพระพุทธเจ้า ในวันเสด็จกลับจากเทวโลก เมื่อครั้งเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อทรงเทศนาอภิธรรมโปรดพระพุทธมารดา 4. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระพุทธบาท ของพระพุทธเจ้า ที่หาดทรายริมแม่น้ำนัมมทานที เมื่อคราวเสด็จไปแสดงธรรมโปรดในนาคพิภพ 5. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระจุฬามณีบนสวรรค์ ซึ่งเป็นที่บรรจุพระเกศาของพระพุทธเจ้า 6. การลอยกระทง เพื่อบูชาท้าวพกาพรหม บนสวรรค์ชั้นพรหมโลก 7. การลอยกระทง เพื่อบูชาพระอุปคุตตะเถระ ซึ่งบำเพ็ญเพียรบริกรรมคาถาอยู่ในท้องทะเลลึกหรือสะดือทะเล ประวัติการลอยกระทงในเมืองไทย การลอยกระทงในเมืองไทย มีมาตั้งแต่ครั้งสุโขทัย เรียกว่า การลอยพระประทีป หรือลอยโคม เป็นงานนักขัตฤกษ์รื่นเริงของประชาชนทั่วไป ต่อมานางนพมาศหรือท้าวศรีจุฬาลักษณ์สนมเอกของพระร่วง ได้คิดประดิษฐ์ดัดแปลงเป็นรูปกระทงดอกบัวแทนการลอยโคม การลอยกระทงหรือลอยโคมในสมัยนางนพมาศ กระทำเพื่อเป็นการสักการะรอยพระพุทธบาทที่แม่น้ำนัมมทานที ซึ่งเป็นแม่น้ำสายหนึ่งอยู่ในแคว้นทักขิณาบถของประเทศอินเดีย ปัจจุบันเรียกว่า แม่น้ำเนรพุททาการลอยกระทงในปัจจุบัน การลอยกระทงในปัจจุบัน ยังคงรักษารูปแบบเดิมเอาไว้ได้ตามสมควร เมื่อถึงวันเพ็ญพระจันทร์เต็มดวงในเดือน 12 ชาวบ้านจะจัดเตรียมทำกระทงจากวัสดุที่หาง่ายตามธรรมชาติ เช่น หยวกกล้วยและดอกบัว นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงสวยงาม ปักธูปเทียนและดอกไม้เครื่องสักการบูชา ก่อนทำการลอยในแม่น้ำก็จะอธิษฐานในสิ่งที่มุ่งหวัง พร้อมขอขมาต่อพระแม่คงคาตามคุ้มวัดหรือสถานที่จัดงานหลายแห่ง มีการประกวดกระทง ประกวดนางนพมาศ และมีมหรสพสมโภชในตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมีการจุดดอกไม้ไฟ พลุ ตะไล ซึ่งในการเล่นต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ วัสดุที่นำมาใช้กระทง ควรเป็นของที่สามารถย่อยสลายได้ง่ายตามธรรมชาติ
เหตุผลของการลอยกระทง สรุปเหตุผลของการลอยกระทงในประเทศไทยดังนี้ 1. เพื่อขอขมาแม่คงคา เพราะได้อาศัยนำท่านกินและใช้ และอีกประการหนึ่งมนุษย์มักจะทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในนำด้วย 2. เพื่อสักการะรอยพระพุทธบาทนัมมทานที ซึ่งประพุทธเจ้าทรงประทับรอยพระบาทประดิาฐานไว้บนหาดทรายที่แม่น้ำนัมมทานที ในประเทศอินเดีย 3. เพื่อลอยทุกข์โศกโรคภัย และสิ่งไม่ดี คล้ายกับพิธีลอยบาปของพราหมณ์ 4. เพื่อบูชาพระอุปคุต ชาวไทยภาคเหนือให้ความเคารพแกพระอุปคุตอย่างสูง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเป็นพระมหาเถระรูปหนึ่งที่มีอิทธิฤทธิ์มากสามารถปราบพญามารได้ การลอยกระทงไม่มีพิธีรีตอง เพียงแต่ขอให้มีกระทงจะทำด้วยอะไรก็ได้ เช่น ใบตอง การกล้วย กาบพลับพลึง เปลือกมะพร้าว กระดาษ จุดธูปเทียนปักที่กระทงแล้วอธิษฐานตามที่ตนปรารถนา เสร็จแล้วจึงลอยไปที่แม่นำลำคลอง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดเทศกาล "สีสันแห่งสายน้ำ มหกรรมลอยกระทง" เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดทั้งเดือนพฤศจิกายน นอกจากจะมีกิจกรรมเด่น ในหลายพื้นที่ เช่น งานลอยกระทงกรุงเทพมหานคร, ประเพณีลอยกระทงเผาเทียนเล่นไฟ จังหวัดสุโขทัย, ประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่, ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปพันดวงฯ จังหวัดตาก และประเพณี ลอยกระทงตามประทีป จังหวัดพระนครศรีอยุธยา นอกจากนี้แล้วยังเป็นการส่งเสริมประชาสัมพันธ์งานประเพณีลอยกระทงให้เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ (World Events) เพื่อสร้างแรงจูงใจในการเดินทางของนักท่องเที่ยวตลอดเดือนต่อไป วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และฟื้นฟู ประเพณี อันดีงามของไทย(โดยเฉพาะประเพณีลอยกระทงของแต่ละท้องถิ่น) ไว้สืบทอดต่อไป ๒. เพื่อส่งเสริมให้งานประเพณีลอยกระทง เป็นสินค้าทางการท่องเที่ยว โดยสามารถนำเสนอในรายการนำเที่ยวเป็นประจำทุกปี ในอนาคตอย่างยั่งยืน ๓. เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและรายได้ พร้อมทั้งขยายวันพักของนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ๔. เพื่อกระตุ้นให้เกิดกระแสการเดินทางท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวไทย และชาวต่างประเทศในช่วงเทศกาลประเพณีลอยกระทง และการท่องเที่ยวทางน้ำตลอดเดือนพฤศจิกายน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
For more information please contact us
053203895-9 or rsvn@chiangmaigatehotel.com